ในโลกธุรกิจและการเมือง "การสิ้นสุด" ของสิ่งหนึ่ง มักเป็นสัญญาณ "การเริ่มต้น" ของสิ่งใหม่เสมอ
(ขอหยิบยิมไอเดียจากหนังสือ "การสิ้นสุดของสิ่งหนึ่ง คือ การเริ่มต้นของสิ่งใหม่เสมอ“ ของคุณหนุ่มเมืองจันท์มาใช้หน่อยนะครับ)
การสิ้นสุดภารกิจของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ก็เช่นกันครับ
มันไม่ใช่จุดจบ แต่คือการส่งไม้ต่อให้กับการเริ่มต้นบทใหม่ของ "อุตสาหกรรมเกมไทย" ที่วันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
พอมีข่าวเรื่องการสิ้นสุดภารกิจของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ก็มีมิตรสหายหลายท่านถามไถ่กันเข้ามาด้วยความกังวลใจ ในส่วนของพวกเราฝั่งเกมก็อยากจะเล่าให้ฟังว่ายุทธศาสตร์ของเรายังคง กำลังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และนี่ไม่ใช่จุดจบครับ แต่คือการส่งไม้ต่อให้กับการเริ่มต้นบทใหม่ของ "อุตสาหกรรมเกมไทย" ที่วันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ใครจะเชื่อว่าอุตสาหกรรมมูลค่า 38,000 ล้านบาท จะเคยถูกมองเป็น "ผู้ร้าย" ในสายตาสังคม ย้อนกลับไปในยุค "ความตื่นตระหนกทางศีลธรรม" ภาพของเกมถูกผูกติดกับข่าวพาดหัวเรื่องความรุนแรง คล้ายกับว่า GTA คือต้นตอของปัญหาทุกอย่างในสังคม บรรยากาศแบบนั้น ประกอบกับการรณรงค์วาทกรรม "สังคมก้มหน้า" หรือโครงการอย่าง "เกมชวนซั่ว" ทำให้เราได้กฎหมายที่เน้น "ควบคุม" แทนที่จะ "ส่งเสริม" และทำให้การส่งเสริมการเล่นเกมกลายเป็นหัวข้อที่นักการเมืองไม่อยากแตะต้อง
แล้ววันหนึ่ง คำที่ไม่เคยมีใครคาดคิดก็ปรากฏขึ้น - "ซอฟต์พาวเวอร์" คำนี้มาพร้อมกับดราม่าและข้อถกเถียงมากมาย บ้างก็ว่าไม่ตรงตำรา Joseph Nye บ้างก็ถามว่าแค่กางเกงช้างจะใช่ซอฟต์พาวเวอร์ได้อย่างไร แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันถึง "นิยาม" พวกเราคนทำเกมกลับค้นพบ "ประโยชน์" ของมัน คำคำนี้กลายเป็นเหมือน "กุญแจวิเศษ" ที่ไขประตูบานแล้วบานเล่าที่เคยปิดตายใส่หน้าเรามาตลอด
แล้วผลลัพธ์จากการทำงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง? ผมอยากจะเล่าให้เห็นภาพที่เป็นรูปธรรมครับ มันคือภาพที่สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA) และสมาคมบอร์ดเกมประเทศไทย (TBGA) ยืนจับมือกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรมจัดงาน Thailand Game Festival 2025 มันคือภาพการลงนาม MOU ระหว่างกรมส่งเสริมวัฒนธรรมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เพื่อสร้าง Ecosystem ที่แข็งแกร่งให้คนตัวเล็กในวงการ และที่ชัดที่สุด คือการที่เราสามารถดึงงานเกมระดับโลกอย่าง Gamescom Asia มาปักหมุดที่ประเทศไทยได้สำเร็จ นี่คือบทพิสูจน์ว่าโลกมองเราเปลี่ยนไปแล้ว
ภารกิจในนามคณะกรรมการฯ อาจสิ้นสุดลง แต่ภารกิจของอุตสาหกรรมยังคงเดินหน้าต่อครับ และ ผมค่อนข้างเชื่อมั่นว่า เรากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง เพราะวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศคือ "คนเล่นเกม" คงไม่มีรัฐบาลไหนกล้าหมุนนาฬิกาย้อนกลับไปมีนโยบายเป็นปฏิปักษ์ต่อเกมอีก
เป้าหมายต่อไปที่ชัดเจนและสำคัญที่สุด คือการผลักดัน "พ.ร.บ. ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกม" ฉบับแรกของประเทศให้เกิดขึ้นจริง ขออนุญาตให้ความเห็นในเรื่องนี้สักเล็กน้อยนะครับ กฎหมายฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับวงการของเรา และแน่นอนว่านี่คืองานใหญ่ และในฐานะสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย ผมมั่นใจว่าสมาคมฯ พร้อมเดินหน้าเข้าพบกับรัฐบาลชุดใหม่และทุกพรรคการเมือง เพื่อสานต่อภารกิจนี้ให้สำเร็จ
การเดินทางครั้งนี้ยังอีกไกล แต่ผมดีใจที่เราได้เห็นการสิ้นสุดของยุคแห่งความเข้าใจผิด และได้เริ่มต้นยุคแห่งโอกาสของอุตสาหกรรมเกมไทยแล้วจริงๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเดินทางและสนับสนุนกันมาโดยตลอด
